ในปัจจุบันถือได้ว่าเป็นยุคที่เต็มไปด้วยการแข่งขันในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะการแข่งขันด้านกลยุทธ์การตลาดเพื่อการแย่งชิงฐานลูกค้ามาเป็นลูกค้าของตัวเอง เพื่อความเป็นที่หนึ่งในกลุ่มธุรกิจสินค้าและบริการประเภทเดียวกันนั้น ถึงแม้ว่ากระแสของการทำการตลาดออนไลน์จะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่มาแรงแซงโค้งที่สุด ที่เรียกได้ว่าธุรกิจไหน ๆ ก็ต้องลงมาเล่นในสนามการตลาดออนไลน์ทั้งนั้น
แต่เราเชื่อแน่ว่าการทำออนไลน์กับสินค้าและบริการบางอย่างก็ยังไม่สามารถเห็นผลได้ชัดเจนแน่นอน เท่ากับอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สามารถใช้ได้ตลอดกาลตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน นั่นก็คือการให้ของแจกและของพรีเมี่ยม หรือของโปรโมชั่นต่าง ๆ ซึ่งในหลาย ๆ องค์กรธุรกิจอาจลืมไปว่าการใช้กลยุทธ์การตลาดแบบนี้ยังคงมีความทรงอิทธิพลอยู่เสมอ สามารถการันตีได้จาก 5 เหตุผล ว่าทำไมต้องใช้ ของพรีเมี่ยมในการประชาสัมพันธ์แบรนด์
- ให้ผู้บริโภคคือฝ่ายประชาสัมพันธ์แบรนด์
กล่าวคือ การที่ลูกค้าที่ซื้อสินค้าแล้วได้ของโปรโมชั่น หรือของแจก จากแบรนด์แล้ว ลูกค้านำของพรีเมี่ยมที่ทางแบรนด์แจกมาใช้ในการใช้ชีวิตประจำวันนั้นก็เปรียบเสมือนการทำการประชาสัมพันธ์ไปในตัว ตัวอย่างเช่น เราทำเสื้อ หรือกระเป๋าผ้า เป็นของแจก ของโปรโมชั่น เมื่อลูกค้านำเสื้อมาใส่ หรือนำถุงผ้ามาใช้ใส่ของเวลาไปจ่ายตลาด หรือใส่ของต่าง ๆ ลูกค้าก็เปรียบเสมือนเป็นป้ายประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ให้กับธุรกิจและองค์กรของเราได้เป็นอย่างดี แต่อีกส่วนหนึ่งที่ลูกค้าจะตัดสินใจเลือกของแจกเรามาใช้ในชีวิตประจำวันได้นั้น ของพรีเมี่ยมของเราก็ต้องมีคุณภาพ มีความโดดเด่น และมีความน่าสนใจในตัวของแจกด้วย ซึ่งในส่วนนี้องค์กรจะต้องนำมาเป็นโจทย์ที่จะทำการตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่มให้ได้
- จับจองทำเลทองโดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา
สำหรับตลาดสินค้าอุปโภคและบริโภคตลาดใหญ่ ๆ ก็จะเป็นกลุ่มคนทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะนั่งทำงานอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง และหากของพรีเมี่ยมที่เราแจกไปให้ลูกค้า เป็นของพรี่เมี่ยมที่สามารถนำมาใช้ได้ในการทำงานหรือวางบนโต๊ะทำงานได้ นั่นก็หมายความว่าของพรีเมี่ยมของเราก็สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญไม่ต้องเสียค่าโฆษณา ซึ่งหลายองค์กรธุรกิจที่เลือกของแจกให้กับผู้บริโภคกลุ่มนี้ เป็นสินค้าประเภท เครื่องเขียน และเครื่องใช้สำนักงาน ตัวอย่าง เช่น ดินสอ ปากกา ไดอารี่ สมุดโน้ต สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นพนักงานออฟฟิศ เป็นต้น เรียกได้ว่าวิธีการเหล่านี้ทำให้องค์กรธุรกิจสามารถจับทำเลทองในการทำโฆษณาแบรนด์แบบไม่มีค่าใช้จ่ายได้อย่างไม่ยากเย็นกันเลยทีเดียว
- สามารถใส่สารและภาพลักษณ์ของแบรนด์สินค้า
เราเชื่อแน่ว่าทุกแบรนด์เข้าใจกลุ่มลูกค้าของตัวเองได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงทำให้เข้าใจได้ว่าต้องเลือกของพรีเมี่ยมประเภทไหน รูปแบบไหนที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณชื่นชอบ ซึ่งของพรีเมี่ยมนี้จะเปิดโอกาสให้ทางแบรนด์สามารถใส่สารและภาพลักษณ์ที่องค์กรธุรกิจต้องการสื่อสารให้ผู้บริโภครับรู้สื่อลงไปในสินค้าพรีเมี่ยมได้ตรงกับความเป็นจริงที่ต้องการสื่อ นอกจากนี้แล้วการดีไซน์และสร้างสรรค์ของแจก ของโปรโมชั่นให้มีรูปลักษณ์โดดเด่น ดึงดูด น่าสนใจด้วยแล้วนั้น จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจและบริการในสายตาลูกค้าได้เป็นอย่างมาก
- สร้างการรับรู้ได้ในระยะเวลานาน
กลยุทธ์การตลาดโดยการจัดทำของพรีเมี่ยม เพื่อเป็นของแจกให้ลูกค้านี้ ถือว่าเป็นการทำการตลาดที่แตกต่างจากการทำตลาดในแบบอื่น ๆ เนื่องจากของแจกที่เรานำมาเป็นของโปรโมชั่นให้ลูกค้านั้นสามารถจับต้องได้จริง และอีกสิ่งหนึ่งคือมีอายุค่อนข้างยาวนาน ตัวอย่างเช่น ถุงผ้าลดโลกร้อน 1 ใบ ซึ่งถือได้ว่าตอนนี้เป็นช่วงที่กระแสลดโลกร้อนมาแรง คนหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ทางแบรนด์สินค้าจะเลือกของแจกเป็นถุงผ้า ซึ่งลูกค้าก็สามารถนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และยิ่งถุงผ้าของแบรนด์เรามีการออกแบบดี โดดเด่น น่าใช้ และมีคุณภาพที่ดีด้วยแล้วละก็รับรองได้แน่นอนเลยว่าลูกค้าจะใช้ของพรีเมี่ยมของเราไปอีกนาน และที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านั้นก็คือลูกค้าก็จะรู้สึกได้ถึงความห่วงใยต่อปัญหาโลกร้อนจากแบรนด์ ทำให้รู้สึกถึงการมีความรับรู้ในความเป็นไปของโลกไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งสามารถตีโลโก้ลงไปบนกระเป๋าผ้านี้ได้ สร้างความรู้สึกรักโลกและการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีที่มีความรับผิดชอบให้ต่อสังคม
- มูลค่ามากกว่าต้นทุนที่แท้จริง
ผู้บริโภคไม่สามารถทราบราคาของพรีเมี่ยมที่ได้รับนั้นว่ามีต้นทุนที่แท้จริงเท่าไหร่ และมีแนวโน้มที่ประเมินราคาของแจกตามการรับรู้ ซึ่งจุดนี้เองจึงเป็นจุดดีที่องค์กรธุรกิจสามารถสร้างความแตกต่างของพรีเมี่ยมให้มีความโดดเด่น และให้ความสำคัญกับขั้นตอนการผลิต รวมถึงเลือกโรงงานผลิตที่ได้คุณภาพ โดยเลือกสั่งเป็นจำนวนมากด้วยแล้วจะทำให้ต้นทุนของโปรโมชั่นต่อหน่วยถูกลง แต่ในทางกลับกันมูลค่าของพรีเมี่ยมที่อยู่ในการรับรู้เป็นมูลค่าที่สูงเมื่อเทียบกับต้นทุนที่แท้จริงนั่นเอง
เราเชื่อแน่ว่าไม่ว่ากระแสการตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร การทำการตลาดด้วยของพรีเมี่ยม หรือของโปรโมชั่นก็ยังคงอยู่ แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปบ้าง แต่อย่าลืมที่จะคำนึงถึงสิ่งที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก และสามารถอยู่ในรูปแบบที่เป็นคุณค่าทางจิตใจ หรือไม่ก็สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันเพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีกับแบรนด์ธุรกิจนั่นเอง